“กอบกาญจน์” เซ็นMOU ญี่ปุ่น 3 ฉบับ เพิ่มแคมเปญ-ท่องเที่ยวเพื่อนบ้านกวาด 8 หมื่นล้าน | ATTA

ACTIVITY OF MONTH














ATTA > Tourism News > “กอบกาญจน์” เซ็นMOU ญี่ปุ่น 3 ฉบับ เพิ่มแคมเปญ-ท่องเที่ยวเพื่อนบ้านกวาด 8 หมื่นล้าน

“กอบกาญจน์” เซ็นMOU ญี่ปุ่น 3 ฉบับ เพิ่มแคมเปญ-ท่องเที่ยวเพื่อนบ้านกวาด 8 หมื่นล้าน

รมว.ท่องเที่ยว รุกเซ็น MOU ญี่ปุ่น 3 ฉบับ หวังดูดเงินญี่ปุ่น 5 พันล้าน/ปี ด้วยทัวร์สุขภาพ อาหาร กีฬา วัฒนธรรม ต่อยอดอุตสาหกรรม S-curve ตั้งเป้ากวาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นทะลุ 2 ล้านคน กวาดรายได้ 8 หมื่นล้านบาทในปี′63 พร้อมเสนอเป็นตัวกลางเชื่อมโยงระหว่างญี่ปุ่นกับประเทศเพื่อนบ้านในเซาท์อีสต์เอเชีย

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังการลงนาม MOU จำนวน 3 ฉบับ ระหว่างฝ่ายไทยกับญี่ปุ่น ในการโรดโชว์เศรษฐกิจไทยที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 25-28 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า ไทยมีเป้าหมายเพิ่มนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่นเข้าประเทศไทย ให้ได้ 2 ล้านคน ในปี 2563 จากปัจจุบันนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเข้าประเทศไทยเป็นอันดับ 3 โดยปีนี้มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 10%

ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยไปญี่ปุ่นมีจำนวน 8 แสนคน เป็นอัตราที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้ง 2 ฝ่าย

“ปีนี้เรามีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น 1.3 ล้านคน มีรายได้ 54,000 ล้านบาท ททท.ตั้งเป้าให้เพิ่มเป็น 80,000 ล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยคาดการณ์เฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ 5,000 ล้านบาท เป็นเป้าหมายที่เป็นไปได้”รมว.การท่องเที่ยวฯกล่าว

นางกอบกาญจน์กล่าวด้วยว่า MOU ทั้ง 3 ฉบับเป็นความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ประกอบด้วย MOU ระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ JATA : Japan Association of Travel Agents โดย ททท.จะนำเสนอโปรดักต์ใหม่ ๆ เส้นทางท่องเที่ยวใหม่ เช่น 12 เมืองต้อง…ห้ามพลาด พลัส และจะเพิ่มช่องทางในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทั้งทีวี นิตยสาร และออนไลน์ และจัดโปรแกรม Thailand Fan Club ร่วมกันระหว่าง 2 ประเทศ โดยในช่วงเทศกาลปีใหม่ไทยที่มีการจัดงานเคานต์ดาวน์ จะมีการถ่ายทอดสดจากวัดอรุณราชวรารามฯ กรุงเทพมหานคร เชื่อมสัญญาณไปยังญี่ปุ่นแบบเรียลไทม์ด้วย

รวมถึงจัดทำโปรแกรมโปรโมชั่นร่วมกับทางญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมการขายให้มีนักท่องเที่ยวจากพื้นที่ใหม่ ๆ ของญี่ปุ่นเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และการทำโรดโชว์ร่วมกับ JATA Local Chapter ในท้องถิ่นต่าง ๆ ให้คนในพื้นที่รู้จักสินค้าด้านการท่องเที่ยวใหม่ ๆ ของไทยด้วย

ลงนาม MOU ร่วมกับ JETRO จะช่วยให้เกิดการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม จะสร้างโปรแกรมให้นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางมาท่องเที่ยวแบบ Industrial Tourism นำชมโรงงานผลิตอาหารไทยที่น่าสนใจ ที่แม้แต่คนไทยก็นึกไม่ถึง การจัดทำโครงการ Roadside Station สถานที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น และเป็นศูนย์ให้ข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งกิจกรรมเช่นนี้จะทำให้เกิดการท่องเที่ยวในระดับชุมชนด้วย

นอกจากนี้ การลงนามร่วมกันจะนำไปสู่การร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในกลุ่มอุตสาหกรรม S-curve และ New S-curve ที่รัฐบาลให้การส่งเสริมการลงทุนและให้สิทธิพิเศษทางภาษี เช่น อุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพ การท่องเที่ยวเพื่อการฟื้นฟูสุขภาพ

และลงนาม MOU ร่วมกับสถานีโทรทัศน์อาซาฮี (TV Asahi Corporation) เพื่อสนับสนุนนโยบายการท่องเที่ยวในระดับภาคี (Bilateral Tourism) เนื่องจากเล็งเห็นว่าสถานทีโทรทัศน์อาซาฮีเป็นช่องทางสื่อสารหลักของญี่ปุ่น โดยในหลักการที่จะทำงานร่วมกันระหว่าง 2 ประเทศ ประกอบด้วย การประสานงานเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว, แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการท่องเที่ยว, ส่งเสริมและผลิตคอนเทนต์ที่จะเผยแพร่ รวมทั้งร่วมกันจัดงานหรือกิจกรรมอื่น ๆ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศ

“ไทยยังจะร่วมมือกับญี่ปุ่นในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น บริษัททัวร์ญี่ปุ่นสนใจเมืองมะริด ประเทศเมียนมา ก็จะใช้ ททท.ร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจ

ขณะเดียวกันไทยก็มีความพร้อมและยินดีในการเป็นตัวกลางเชื่อมโยงระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งในด้านการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยว” รมว.การท่องเที่ยวฯกล่าว

ที่มา:ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

Comments

comments