130 เที่ยวบินดีเลย์ เหตุติดระบบจัดจราจรทางอากาศใหม่ บวท.ยัน 1-2 วันเข้าที่
นายทินกร ชูวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เปิดเผยถึงกรณีที่เกิดปัญหาเที่ยวบินล่าช้า (ดีเลย์) จำนวนมาก ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ว่า สาเหตุเกิดจาก บวท.ได้นำระบบการจัดจราจรทางอากาศรูปแบบใหม่ ซึ่งมีการจัดระบบเส้นทางบินเข้าและออก โดยใช้พื้นฐานจากเครื่องช่วยเดินอากาศจากดาวเทียมมาใช้เป็นวันแรก และเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ เวลา 07.00 น. ของวันที่ 31 มีนาคม 2559 เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับระบบการจัดจราจรแบบใหม่ให้กับนักบินและผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศ ตามขั้นตอนการปฏิบัติงานจำเป็นต้องมีการจัดระยะหางของอากาศยานในการเข้า-ออก จาก 2 นาที/ลํา เป็น 4 นาที/ลํา จึงมีผลกระทบทําให้เกิดความล่าช้าของเที่ยวบิน ขณะเดียวกัน ในช่วงเวลาดังกล่าว เกิดปัญหาสภาพอากาศไม่ดี มีฝนตกอย่างหนัก ทำให้เครื่องบินที่จะบินขึ้นจากท่าอากาศยานสุวรรณและดอนเมืองในช่วงเช้าเกิดปัญหาความล่าช้าประมาณ 20 นาที
“หลังจากเริ่มใช้ระบบใหม่ เมื่อตอน 7 โมงเช้า ผ่านไปได้ 5 นาที มีฝนตกอย่างหนักและมีเมฆมาก ทำให้ทัศนวิสัยด้านการบินไม่ดี ทำให้เครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองบินขึ้นและลงไม่ได้ ตั้งแต่ช่วงเวลา 07.05-09.30 น. ส่งผลให้เที่ยวบินในช่วงเช้าล่าช้า รวมทั้งสิ้น 82 เที่ยวบิน แบ่งเป็นที่สุวรรณภูมิ 48 เที่ยวบิน ดีเลย์สูงสุด 1 ชั่วโมงครึ่ง และดอนเมือง 34 เที่ยวบิน ดีเลย์สูงสุด 1 ชั่วโมง 45 นาที แต่หลังจากเวลา 07.30 น. เครื่องบินเริ่มทยอยบินเข้าและออกได้ แต่ก็ยังล่าช้าอยู่ โดย บวท.สามารถบริหารจัดการเครื่องบินทั้งหมด 82 ลำได้แล้วเสร็จเวลาประมาณ 11.00 น.” นายทินกรกล่าว
นายทินกรกล่าวว่า ปัญหาเที่ยวบินล่าช้าที่เกิดขึ้นในช่วงเช้า ยังทำให้เกิดปัญหาเที่ยวบินสะสมเป็นครั้งที่ 2 หลังเวลา 11.00 น.ด้วย โดยมีจำนวนเที่ยวบินที่ล่าช้ารวม 48 เที่ยวบิน แบ่งออกเป็นสุวรรณภูมิ 29 เที่ยวบิน และดอนเมือง 19 เที่ยวบิน โดยเที่ยวบินมีความล่าช้าสูงสุด 20 นาที
“ระบบใหม่ที่นำมาใช้ทำให้เที่ยวบินดีเลย์จำนวนมากที่สุวรรณภูมิ และดอนเมือง เฉพาะช่วงเช้าดีเลย์ไป 130 เที่ยวบิน ซึ่ง บวท.ได้พยายามแก้ไขจัดการทำให้เที่ยวบินกลับมาเป็นแกติเวลาประมาณ 12.00 น.ของวันเดียวกัน แต่ก็คงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง คาดจะใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน ระบบจะเข้าสู่ภาวะปกติ ผู้ปฏิบัติการจะเริ่มคุ้นเคยกับระบบใหม่ จากนั้นเที่ยวบินก็จะไม่มีปัญหาดีเลย์เกิดขึ้นอีก” นายทินกรกล่าว
นายทินกรกล่าวว่า ระบบการจัดจราจรแบบใหม่ เป็นระบบที่จะทำให้สามารถบริหารจัดการเที่ยวบินขึ้นลงได้มากขึ้น เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะจัดเส้นทางบินเข้าและออกด้วยระบบดาวเทียม ซึ่งมีความละเอียด แม่นยำ และเที่ยงตรงมากกว่าระบบเก่าที่ใช้การส่งสัญญาณจากภาคพื้นดิน มั่นใจว่าหลังจากนักบินและเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศคุ้นกับระบบการปฏิบัติงานการบินแบบใหม่แล้ว จะสามารถจัดจราจรได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นสามารถเพิ่มเที่ยวบินที่เข้ามาใช้บริการได้เพิ่มขึ้น จากเดิมอีก 15-20% ซึ่งจะช่วยรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
ที่มา : มติชนออนไลน์
updated: 31 มี.ค. 2559 เวลา 17:32:46 น.