8 เหตุการณ์ฮอต ท่องเที่ยวปี”58 สารพัดปัจจัยลบรุมเร้า… (แต่) โตทะลุเป้า | ATTA

ACTIVITY OF MONTH














ATTA > Tourism News > 8 เหตุการณ์ฮอต ท่องเที่ยวปี”58 สารพัดปัจจัยลบรุมเร้า… (แต่) โตทะลุเป้า

8 เหตุการณ์ฮอต ท่องเที่ยวปี”58 สารพัดปัจจัยลบรุมเร้า… (แต่) โตทะลุเป้า

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ตั้งเป้ารายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสำหรับปี 2558 ว่าจะมีรายได้รวม 2.2 ล้านล้านบาท และมีจำนวนนักท่องเที่ยว 28.8 ล้านคน ถึงขณะนี้ “อิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก” ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ที่มองว่า ตลอดปี 2558 ไทยจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด 30.45 ล้านคน เพิ่มขึ้น 22.83% เมื่อเทียบกับปี 2557 และสามารถสร้างรายได้ 1.5 ล้านล้านบาท

ขณะที่ “กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร” รัฐมนตรีว่ากากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” ได้แถลงตัวเลขคาดการณ์นักท่องเที่ยวล่าสุดว่า ปีนี้ประเทศไทยจะมีรายได้ทั้งจากตลาดต่างชาติ และไทยเที่ยวไทย เป็นไปตามเป้าหมาย 2.2 ล้านล้านบาทแบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.42 ล้านล้านบาท และจากตลาดไทยเที่ยวไทย 0.79 ล้านล้านบาท และมียอดนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 30 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขทั้งรายได้รวมและจำนวนนักท่องเที่ยวปี 2558 ของไทยจะเป็นไปตามเป้าหมาย แต่ถือเป็นอีกปีหนึ่งที่ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยต้องเผชิญกับสารพัดปัจจัยลบต่าง ๆ ดังนี้

1.ICAO ปัก “ธงแดง”

เรียกได้ว่าเป็น “วิบากกรรม” ของอุตสาหกรรมการบินของไทย หลังองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้ตรวจสอบกรมการบินพลเรือน ตามโครงการตรวจสอบการกำกับดูแลความปลอดภัยสากล จนพบข้อบกพร่องอย่างมีนัยสำคัญ (SSC) เกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัย โดยสงสัยใน 2 ประเด็นหลักว่า ภายในระยะเวลาไม่กี่ปี ไทยกลับออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ (AOC) จำนวนมาก รวมถึงมาตรฐานเกี่ยวกับการขนสินค้าอันตราย ส่งผลให้สัญลักษณ์ “ธงแดง” ปรากฏหน้าชื่อประเทศไทย ในเว็บไซต์ของ ICAO เมื่อ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา

กระทั่งรัฐบาลตัดสินใจผ่าตัดปรับโครงสร้างกรมการบินพลเรือนเดิม คลอดออกเป็น 4 หน่วยงานใหม่ ได้แก่ 1.กรมท่าอากาศยาน 2.สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) 3.กองค้นหาและช่วยเหลืออากาศยาน และ 4.กองนิรภัยการบินและสอบสวนอากาศยานประสบภัย เพื่อเร่งปลดล็อก SSC ตามโจทย์ของ ICAO

แต่เพราะแก้ปัญหาไม่แล้วเสร็จ ทำให้เมื่อ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (Federal Aviation Administration : FAA) ประกาศลดเกรดมาตรฐานการบินของไทยจาก Category 1 (อยู่ในมาตรฐาน) เป็น Category 2 (ต่ำกว่ามาตรฐาน) เป็นผลให้สายการบินของไทยไม่สามารถเพิ่มเที่ยวบินเข้าสหรัฐได้ และไม่สนับสนุนข้อตกลงทำการบินร่วม (โค้ดแชร์) จนกว่าจะแก้ไขข้อบกพร่องสำเร็จ

และเมื่อ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา สำนักงานบริหารการบินพลเรือนแห่งสหภาพยุโรป หรือเอียซ่า (EASA) ได้ประกาศผลการตรวจสอบมาตรฐานการบินของไทยระบุว่า ไม่ปรากฏว่ามีสายการบินของประเทศไทยถูกเพิ่มเติมในรายชื่อของสายการบินที่ไม่อนุญาตให้ทำการบินในขณะนี้ แต่คณะกรรมาธิการแห่งสหภาพยุโรป และเอียซ่า ก็จะติดตามอย่างใกล้ชิดถึงการพัฒนานับจากนี้

และถ้าหากจำเป็นซึ่งการปกป้องผู้โดยสารในอนาคต คณะกรรมาธิการแห่งสหภาพยุโรปอาจนำเสนอที่จะรวมสายการบินของไทยจำนวนหนึ่งสายการบิน หรือมากกว่านั้น รวมอยู่ใน Air Safety List ต่อไป

2.”เมอร์ส” ทุบเกาหลีเที่ยวไทย

โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2012 ที่รู้จักกันในนามของโรคเมอร์สที่ระบาดเกาหลีใต้ ทำให้มีคนเสียชีวิตได้สร้างความตื่นตัวให้กับหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกอีกครั้ง ซึ่งรวมถึงทางการไทยที่เพิ่มมาตรการการติดตามโรคดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบลุกลามเป็นวงกว้างต่อชีวิตของคนและเศรษฐกิจดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นเมื่อครั้งโรคซาร์สระบาดในปี 2546 ที่ผ่านมา

และแน่นอนภาคธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบค่อนข้างมากคือ ภาคการท่องเที่ยว แม้การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสเมอร์สในภาพรวมยังไม่กระจายไปสู่ประเทศต่าง ๆ ในวงกว้าง แต่การระบาดของเชื้อไวรัสเมอร์สในกาหลีใต้ ซึ่งมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกับภูมิภาคอาเซียนรวมทั้งไทย ถือเป็นประเด็นที่ต้องติดตามและมีมาตรการเฝ้าระวัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในหมู่นักท่องเที่ยว เพราะเกาหลีใต้ก็เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติรายสำคัญของไทย โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยอยู่อันดับที่ 5 ของตลาด

นักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย หรือมีจำนวนประมาณ 1,117,449 คนในปี 2557 สร้างรายได้อยู่ที่ประมาณ 42,783.63 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา

การระบาดของเชื้อไวรัสเมอร์สในประเทศเกาหลีใต้ จึงส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวในหมู่นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ โดยเฉพาะในช่วงแรกเริ่มการระบาดของโรค

3.บูมสนามบิน “อู่ตะเภา”

สนามบินอู่ตะเภานับเป็นสนามบินพาณิชย์น้องใหม่ ที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง โดยถูกผลักดันให้เกิดบริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบในปีนี้

กองทัพเรือในฐานะเจ้าของสนามบินได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับกระทรวงคมนาคมไปเมื่อ 3 มิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาอู่ตะเภาเชื่อมโยงการคมนาคมและกระจายความแออัดจากสุวรรณภูมิและดอนเมือง โดยแนวทางการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ได้แบ่งออกเป็น 3 เฟส ได้แก่ เฟสที่ 1 ช่วงปี 2558-2560 พัฒนาให้รองรับผู้โดยสารจากเดิม 8 แสนคนต่อปี เป็น 3 ล้านคนต่อปี เฟสที่ 2 ช่วงปี 2561-2563 พัฒนาให้รองรับผู้โดยสารได้ 5 ล้านคนต่อปี และเฟสที่ 3 ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป จะก่อสร้างทางวิ่ง (รันเวย์) ที่ 2 ระยะทางไม่ต่ำกว่า 2.7 พันเมตร

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมได้มีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมสนามบินอู่ตะเภา ด้วยการขยายถนนหน้าสนามบินจาก 2 เลน เป็น 4 เลน และเตรียมก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองพัทยา-มาบตาพุด พร้อมปรับถนนทางเข้าออกหลักในฝั่งตะวันตกของสนามบิน ส่วนระบบรางแอร์พอร์ตลิงก์อยู่ระหว่างการศึกษา

ปัจจุบันสนามบินอู่ตะเภาเร่งทำตลาดดึงสายการบินทั้งไทยและเทศเข้ามาเพิ่มเส้นทางบินเพื่อเพิ่มปริมาณผู้โดยสาร โดยขณะนี้มีสายการบินให้บริการเส้นทางบินที่อู่ตะเภาแล้ว 3 ราย ประกอบด้วย บางกอก แอร์เวย์ส, ไทย แอร์เอเชีย และแอร์เอเชีย มาเลเซีย

นับเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในภาคตะวันออกของไทยให้เป็น “ทัวริสต์ เดสติเนชั่น” แห่งใหม่ของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวรัสเซียและจีน

4.บึ้ม “ราชประสงค์”

เหตุระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม บริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อคืนวันที่ 17 สิงหาคม 2558 ได้ฉุดบรรยากาศของภาคการท่องเที่ยวไทย ซึ่งถือเป็น “เครื่องยนต์” เศรษฐกิจเดียวที่ยังติดอยู่และเป็นความหวังของไทยในช่วงครึ่งหลังปี 2558 เป็นที่มาของการตั้งคำถามเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย รวมถึงระบบข่าวกรองของไทย

โดยภาครัฐและเอกชนต่างประเมินผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวว่า จะเกิดขึ้นในระยะสั้น 3-6 เดือนเท่านั้น เพราะราชประสงค์เป็นย่านที่นักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) จากจีน ฮ่องกง ไต้หวัน และสิงคโปร์ นิยมมาเที่ยว จึงตระหนกกับเหตุการณ์ในช่วงแรก ๆส่งผลให้เดือนกันยายนมียอดยกเลิกการเดินทางและเข้าพักลดลง กระแสการจองทัวร์ทั้งจากตลาดทัวร์จีน ทัวร์ฮ่องกง และทัวร์ไต้หวันเข้ามาน้อยมาก เพราะนักท่องเที่ยวยังกังวลเรื่องความปลอดภัย ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวของตลาดจีนในช่วงวันหยุดยาว (โกลเด้นวีก) ฉลองวันชาติจีน เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

ขณะที่ผู้ประกอบการโรงแรมในย่านราชประสงค์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า จากประสบการณ์การทำธุรกิจโรงแรม ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลากหลายวิกฤต แต่ละครั้งล้วนรุนแรง และค่อนข้างพูดลำบากว่าเหตุการณ์ไหนร้ายแรงที่สุด เพราะทุกคนซัฟเฟอร์ด้วยกันทั้งนั้น

สำหรับเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศและความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยอย่างมาก อยากให้รัฐบาลเรียกศรัทธาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง

5.ก่อการร้าย “ปารีส”

ฉุดยุโรปเกิดเหตุการณ์กราดยิงของกลุ่มก่อการร้ายในกรุงปารีส เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยไปทั่วยุโรป เพราะกรุงปารีสไม่เพียงแค่เป็นศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเงิน และการเมืองของฝรั่งเศสเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่สร้างรายได้ให้กับประเทศถึง 8% ของรายได้รวม

สำหรับประเทศไทยนั้นในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ประมาณ 6 แสนคน สร้างรายได้ปีละกว่า 4 หมื่นล้านบาท อยู่ในอันดับ 4 ของนักท่องเที่ยวชาวยุโรป และเป็นตลาดที่มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

เหตุการณ์ดังกล่าวในระยะสั้น ส่งผลกระทบทันทีในเชิงจิตวิทยาของผู้วางแผนเดินทางท่องเที่ยว ทั้งในส่วนที่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทย และนักท่องเที่ยวชาวไทยที่จะเดินทางออกนอกประเทศ ขณะเดียวกันยังส่งผลกระทบต่อการวางแผนการเดินทางของนักท่องเที่ยวตลาดยุโรปในระยะยาว ประกอบกับที่มีข่าวหนังสือแจ้งเตือนจากหน่วยงาน

ข่าวกรองรัสเซียว่า มีสมาชิกกลุ่ม ISIS จำนวน 10 คน เดินทางเข้ามาตามแหล่งท่องเที่ยวของไทย อาทิ พัทยา, ภูเก็ต และกรุงเทพฯ

ข่าวที่เกิดขึ้นกระทบต่อความเชื่อมั่นถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ลดลงไปอีก กระทั่งหลายฝ่ายวิตกว่าจะส่งผลกระทบยาวมาถึงไฮซีซั่นปีใหม่ด้วย เพราะนักท่องเที่ยวยังไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

6.จีนปรับลดค่า “หยวน”

เป็นที่จับตาอย่างยิ่งจากสายตาทั่วโลก สำหรับภาวะฟองสบู่หุ้นจีนที่หลายฝ่ายเกรงว่าจะแตกเมื่อช่วงกลางปี 2558 หลังสถานการณ์ตลาดหุ้นจีนปรับลดลงอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อตลาดทุนและตลาดเงินทั่วโลก ประกอบกับเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนประกาศนโยบายปรับลดอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ให้สะท้อนสถานการณ์ตลาดได้ดียิ่งขึ้นจากความกังวลต่อปัญหาเศรษฐกิจจีน

ผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยวพาคนจีนเที่ยวไทยมองว่า เบื้องต้นจะไม่กระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เพราะมาตรการทางการเงิน เช่น การปรับลดค่าเงินหยวน จะช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจีนให้คล่องตัวขึ้น หนุนให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีของจีนเติบโตได้ตามเป้าหมายและคาดว่าตลอดปี 2558 ภาพรวมค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนในไทยจะยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้จะได้รับผลกระทบไปบ้างในช่วงเดือนมิถุนายนที่เศรษฐกิจต้องเจอกับปัญหาฟองสบู่หุ้น และคาดว่าในปี 2558 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเที่ยวไทยเฉียด 8 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 3 แสนล้านบาท ครองส่วนแบ่งประมาณ 18% ของรายได้ท่องเที่ยวไทยทั้งหมด ซึ่งตั้งไว้ที่ 2.2 ล้านล้านบาท

ขณะที่ประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้า การลงทุน และความร่วมมือเศรษฐกิจไทย-จีน หรือเจซี ครั้งที่ 4 เมื่อกลางเดือนธันวาคม 2558 ที่ผ่านมานั้น “ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ได้กล่าวภายหลังการประชุมว่า ไทยกับจีนจะมีการพัฒนาการท่องเที่ยวร่วมกันทั้ง 2 ขา โดยได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะมีนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยมากถึง 10 ล้านคนในปี 2559 เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่มีจีนเที่ยวไทยถึง 7.9 ล้านคน

และนับจากนี้จะร่วมกันส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ และเปิดตลาดใหม่ ๆ รวมถึงแก้ไขปัญหาของนักท่องเที่ยวทั้งฝั่งไทยและจีนร่วมกัน

7.บินไทย (ยัง) ขาดทุนอ่วม

วาดเป้าว่าปีนี้ “การบินไทย” จะมีรายได้แตะ 2 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เมื่อต้นปีที่ 1.8 แสนล้านบาท แต่ด้วยภาวะการแข่งขันที่รุนแรงทั้งจากสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) และสายการบินระดับพรีเมี่ยมด้วยกันเอง โดยเฉพาะสายการบินจากแถบตะวันออกกลาง บวกกับระบบการทำตลาดที่ไม่แข็งแรงพอ ทำให้สายการบินแห่งชาติรายนี้ยังติดหล่มอย่างหนัก

โดย 9 เดือนแรก (มกราคม-กันยายน) ปีนี้ การบินไทยขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 18,100 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 4 ก็ยังไม่เห็นแนวโน้มว่าจะมีศักยภาพในการทำกำไรทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์กันว่า ตัวเลขรวมสำหรับปีนี้อาจขาดทุนมากกว่า 21,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่การบินไทยเคยขาดทุนมากที่สุดเมื่อปี 2551ตัวเลขขาดทุนที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้ ทำให้ “การบินไทย” เป็น 1 ใน 7 รัฐวิสาหกิจ ที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) สั่งให้เร่งปรับแผนฟื้นฟูองค์กรโดยด่วนและเป็นรูปธรรม

โดย “จรัมพร โชติกเสถียร” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า รายได้ของการบินไทยตลอดปี 2558 นี้อาจไม่ถึง 1.8 แสนล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากครึ่งปีแรกรายได้หลุดจากเป้าหมายค่อนข้างสูง อัตราผลตอบแทนหรือกำไร (ยีลด์) ต่อที่นั่งลดลง ทั้ง ๆ ที่จำนวนผู้โดยสารโดยรวมเพิ่มขึ้น ประกอบกับตัวเลขต้นทุนค่าจ่ายในครึ่งปีแรกก็ยังไม่ได้ลดลงตามแผนปฏิรูปองค์กร

ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทยนัดพิเศษ เมื่อ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้พิจารณาทบทวนแผนฟื้นฟูขององค์กร เพื่อเสนอต่อที่ประชุม คนร. ซึ่งมีพลเอกประยุทธ์เป็นประธานอีกครั้ง

โดยภาพรวมยังคงเน้นการเพิ่มรายได้และลดรายจ่าย แต่จำต้องปรับแผนให้สอดคล้องกับความเป็นจริง โดยปรับวิธีการดำเนินงานแบบแยกส่วนสอดรับกับแต่ละตลาด ด้วยความหวังว่าปี 2559 นี้จะเป็นปีที่ “การบินไทย” กลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง

8.แลนด์มาร์ก “วัดอรุณ”

นับเป็นอีเวนต์ใหญ่สร้างสีสันในช่วงสิ้นปี สำหรับกิจกรรรม “ไทยแลนด์ เคานต์ดาวน์” นับถอยหลังสู่ศักราชใหม่ในวันที่ 29-31 ธันวาคมนี้ ที่พระปรางค์ วัดอรุณราชวราราม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถนนมหาราช ซึ่งเป็นไอคอนของประเทศไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติจดจำได้

งานนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) วางเป้าหมายให้กิจกรรมนี้เปิดภาพการจดจำภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวระดับโลก โดยใช้โอกาสส่งท้ายปี 2558 ต้อนรับปี 2559 พร้อมตั้งเป้าให้วัดอรุณเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของปฏิทินเคานต์ดาวน์ของโลก เทียบชั้นนิวยอร์กไทม์สแควร์ สหรัฐอเมริกา, หอไอเฟล ฝรั่งเศส และโอเปราเฮาส์ ซิดนีย์ ออสเตรเลีย และมีแนวโน้มจัดอย่างต่อเนื่องในปีต่อ ๆ ไป เพื่อโปรโมตท่องเที่ยวไทย

ที่สำคัญ นอกเหนือจากจัดเคานต์ดาวน์ปีใหม่แล้ว ททท.ยังจัดเคานต์ดาวน์เข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในวันที่ 30 ธันวาคมด้วย

ทั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเป็นผู้นำของไทยในชาติอาเซียน…

ที่มา:ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

Comments

comments

omtogel situs togel slot gacor omtogel omtogel omtogel omtogel omtogel slot gacor

Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Toto Slot
Slot Dana
Taruhan Bola
slot bola
bola slot
rujak bonanza
www.layarkampung21.com - Layarkampung21 www.layarkampung21.org - Layarkampung21 www.layarkampung21.xyz - Layarkampung21 id.pinterest.comfilmbox21 - Layarkampung21 x.comFilmbox21movie - Layarkampung21 heylink.mefilmbox21 - Layarkampung21 linktr.eefilmbox21 - Layarkampung21 linkr.biofilmbox21 - Layarkampung21 www.youtube.com@filmbox21official - Layarkampung21 heylink.melayarkampung21 - Layarkampung21 x.comlayarkampung21 - Layarkampung21 www.pinterest.comlayarkampung21 - Layarkampung21 linktr.eelayarkampung21 - Layarkampung21 linkr.biolayarkampung21 - Layarkampung21 t.melayark21official - Layarkampung21